ข้อดีและข้อเสียของการทำศัลยกรรมจมูกแบบเปิดและปิด
การเสริมจมูกเป็นวิธีการผ่าตัดที่สามารถทำได้เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของจมูก การผ่าตัดแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ การเสริมจมูกแบบปิดและแบบเปิด การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดเป็นขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับการลอกผิวหนังออกจากจมูกเพื่อเผยให้เห็นกระดูกอ่อน กระดูก และส่วนของเยื่อบุโพรงจมูก การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดทำได้สองวิธี วิธีหนึ่งคือการปิดแผลด้วยไหมละลาย และวิธีที่สองคือการปิดด้วยไหมเย็บถาวร
ข้อดี
– เสียเลือดน้อยกว่าการทำหัตถการแบบเปิด
– เจ็บน้อยกว่าการทำหัตถการแบบเปิด
– แม่นยำกว่าเพราะไม่ต้องตัดต่อใดๆ
– ระยะเวลาพักฟื้นสั้นกว่าการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด
– ไม่มีรอยแผลเป็นที่จมูกหลังการรักษา
ข้อเสีย
– อาจใช้เวลาในการรักษานานขึ้นและระยะพักฟื้นอาจนานขึ้นเนื่องจากไม่ปรากฏรอยแผลเป็นที่จมูกหลังทำ
3 สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด
แม้ว่าจะถือว่าเป็นการผ่าตัดแบบเปิดแผลมากกว่า แต่แพทย์พบว่าการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดช่วยในการวินิจฉัยสภาพของจมูกและช่วยให้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
- การเสริมจมูกแบบเปิดถือเป็นการเสริมจมูกแบบ Invasive มากกว่าการเสริมจมูกแบบปิด ด้านในของจมูกจะสัมผัสกับอากาศในระหว่างขั้นตอนนี้
- การเสริมจมูกแบบเปิดช่วยให้แพทย์วินิจฉัยสภาพจมูกได้แม่นยำขึ้น เนื่องจากสามารถตรวจสอบภายในจมูกได้ ภาวะบางอย่างที่ภายนอกอาจมองไม่เห็นแต่ทำให้เกิดปัญหารุนแรงสามารถตรวจพบได้ด้วยวิธีการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด
- แพทย์พบว่าการผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิดมีระยะเวลาการฟื้นตัวและการกลับสู่ปกติที่สั้นกว่าการทำจมูกแบบปิด เนื่องจากการเข้าถึงจะเริ่มขึ้นหลังการผ่าตัด และคนไข้ไม่ต้องกังวลเรื่องการหายใจทางปากในระหว่างนี้
5 ข้อควรรู้เกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด
นี่คือรายการสิ่งสำคัญ 5 ประการที่ควรทราบเกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด
- การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดเป็นการผ่าตัดที่มีแผลเล็ก ซึ่งหมายความว่าไม่ต้องเปิดแผลบนใบหน้าเพื่อไปถึงจมูก
- สามารถทำได้ภายใต้การดมยาสลบทั่วไปหรือเฉพาะที่ ดังนั้นคุณจึงสามารถตัดสินใจได้ว่าวิธีใดดีที่สุดสำหรับคุณ และแพทย์ของคุณจะทำงานร่วมกับคุณเพื่อให้แน่ใจว่าขั้นตอนดังกล่าวสามารถทำได้อย่างปลอดภัย
- การผ่าตัดนี้ทิ้งรอยแผลเป็นไว้เล็กน้อยหรือไม่มีเลย และโดยทั่วไปจะใช้เวลา 10-12 วันก่อนที่คุณจะสามารถกลับมาทำกิจกรรมได้ตามปกติโดยไม่รู้สึกไม่สบายใดๆ
- มีประโยชน์มากมายจากขั้นตอนนี้ แต่ให้ปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนที่จะตัดสินใจว่ามันเหมาะกับคุณหรือไม่
- หากคุณมีคำถามหรือข้อกังวลใดๆ โปรดติดต่อแพทย์ของคุณได้ตลอดเวลาทำการ เพราะพวกเขายินดีที่จะตอบคำถามและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนหากจำเป็น